สูงกำลังดี สวยและสมรถนะดีด้วย

คันนี้ ALL NEW D-MAX V-CROSS 4x4 ยก 2 - 3 นิ้ว ใส่ยางใหญ่ได้ขนาด 285 / 75 / 16 หรือขนาดร่วมๆ 33 นิ้วครับ สวยเต็ม

 สุดยอดของกระบะอีกรุ่นคือ TRITON4x4 คันนี้ก็ยกสูง 2 - 3 นิ้วเช่นกันท่านเจ้าของแฮปปี้กับสมรถนะมาก คันนี้ชมเรื่องคุณภาพและประสิทธิภาพไม่ขาดปาก เลือกเดินแนวทางนี้ถือว่าเดินมาถูกทางครับ

 สวยงาม ดุดัน ลงตัว และใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพของรถครับ

ไม่ได้มีเวลาเข้ามาอธิบายเกี่ยวกับเรื่องการยกสูงแบบ 2"-3" นานพอควร เวลาผ่านไป แต่หลักใหญ่ใจความของการยกสูงนั้นก็ยังคงหลักการเหมือนเดิม แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปมาก นอกเสียจากรุ่นรถยนต์ที่อาจจะมีการออกรุ่นใหม่ๆมาบ้างครับตอนนี้

ลำดับความสำคัญของการยกสูงและอุปกรณ์ต่างๆ

แบบที่ 1. สเปเซอร์ยกสปริงหน้า สเปเซอร์ยกสปริงหลัง ( กรณีรถประเภท ปาเจโร่สปอร์ต ฟอร์จูนเนอร์ มิวเอ็กซ์ เอเวอร์เรส เป็นต้น ) หรือ ก้อนรองยกสูงด้านหลังและสาแหรก ( กรณีเป็นรถกระบะ แหนบเหนือเพลา )

อุปกรณ์ต่างๆที่ใช้โดยมากจะมีเท่าแค่ที่เห็นตามในภาพ เป็นที่นิยมกันโดยทั่วไป

ข้อดีของชุดยก 2" แบบนี้คือ 1. อุปกรณ์ ชิ้นส่วนมีน้อย ไม่ต้องยุ่งยากวุ่นวายมาก

                                         2. ค่าใช้จ่ายต่ำมาก อยู่ระหว่าง 2 - 3,000 บาทเท่านั้นขึ้นอยู่กับวัสดุของอุปกรณ์ที่นำมาใช้

ข้อเสีย คือ 1. การขับขี่จะมีอาการหน้าไว พวงมาลัยไว แวบไปแวบมา ไม่นิ่ง ขับเร็วๆ ไม่มีความมั่นใจในการควบคุมรถ

                2. รถจะมีอาการโยนตัว โคลงเคลงมากขึ้น เนื่องจากยังคงใช้โช็คเดิมๆติดรถ ซึ่งเมื่อรถมีความสูงมากขึ้น อาการโยนตัว โคลงเคลงก็จะเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ขับช้า หรือเร็วก็มีอาการมากน้อย ตามความเร็ว เข้าโค้งก็อันตรายมาก

                3. โช็คหลังอาจมีอาการ รั้งเนื่องจาก ตัวรถยืดตัวออกไป โช็คอาจจจะยืดไปจนสุด และรั้ง ทำให้ประสิทธิภาพการขับขี่ด้อยลงทันที

แบบที่ 2. ยก 2" โดยใช้โช็คที่ยก 2" ในด้านหน้า และด้านหลังใช้ก้อน 2" รองแหนบ

แบบนี้ ในด้านหน้าโช็คยก 2" ในตัวจะมีจานรับสปริงสูงขึ้นมามากกว่า โช็คยาวสแตนดาร์ด ซึ่งจะทำให้จานโช็คไปดันสปริงหน้าเพื่อยกรถขึ้นมา ทำให้รถมีความสูงเพิ่มมากขึ้น โดยมากถ้าเป็นโช็คที่ผลิตในเมืองไทย จะทำระยะให้สูงขึ้นมา ประมาณ 2"

ส่วนในด้านหลัง จะใช้ก้อนยกสูง ความสูง 2" และใช้สาแหรกยาว ดังภาพประกอบ และเปลี่ยนโช็คหลังยาวขึ้นมากกว่าสแตนดาร์ดประมาณ 2" 

ชุดนี้รถก็จะสูงขึ้นมาหน้าหลัง โดยรวม 2" เท่ากับชุดแรก ( ชุดที่ 1 ) แต่ข้อดีข้อเสียก็จะต่างกัน

ข้อดี ของชุดนี้ 1. รถที่ยกจะมีอาการโคลงเคลงยวบยาบลดลง ( ขึ้นอยู่กับโช็คที่เลือกมาใช้ )

                     2. อาการโช็ค รั้ง หรือโช็คสั้นไปในด้านหลังจะหมดไป ยืดตัวได้มากเพียงพอต่อการยก 2"

ข้อเสียของชุดนี้ 1. อาการในด้านหน้าของรถ จะมีความแข็งกระด้างเพิ่มมากขึ้นจากการที่โช็ค ไปเค้นสปริงให้ดันตัวรถให้สูงขึ้น และสปริงจะเกิดความเครียด สะสม เมื่อในระยะหนึง สปริงก็จะเกิดการเสื่อมสภาพ ค่า K สปริงจะเปลี่ยนไป การขับขี่จะเริ่มไม่สบาย จากสปริงด้านหน้า

                       2. รถจะมีอาการหน้าไว พวงมาลัยไว แวบไป แวบมา ยิ่งมีหลุมมีแอ่ง มีเนิน มันแวบมากๆ

                       3. ค่าใช้จ่ายจะมากขึ้นกว่าแบบแรก ( ข้อที่ 1. ) โดยรวมๆ ชุดประมาณนี้ใช้งบประมาณไม่เกิน  1 หมื่นบาทโดยประมาณ ( ขึ้นอยู่กับโช็คที่เลือกใช้ )

แบบที่ 3. มีอุปกรณ์ดังนี้ - โช็คหน้าหลัง 4 ต้น

                                - สเปเซอร์รองสปริงหน้า 1 คู่

                                - ก้อนรองหลัง 2" พร้อมสาแหรก

                                - ลูกหมากปีกนกแบบยาว ( เพื่อปรับมุมองศาปีกนกบน สำหรับรถ Vigo,Fortuner,Navara )

ข้อดี    1. โช็คอัพหน้าหลัง และสปริงหน้า ไม่เครียด เนื่องจากระยะโช็ค และสปริงยังอยู่ในระยะเดิม สปริงไม่เค้น ความแข็งกระด้างจากสปริงจึงมีเท่าเดิม

           2. ความชันของปีกนกบน จากการยกสูงชันน้อยลง ลดอาการหน้าไว อาการแวบไปมา สามารถลดอาการลงไปได้จากเดิมในระดับหนึ่ง

           3. อาการโยนตัวของช่วงล่าง ลดลง และมีอาการดีขึ้นมากกว่าแบบที่ 2 ( ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโช็คอัพที่เราเลือกใช้งาน )

ข้อเสีย 1. หากเลือกใช้โช็คอัพที่ไม่เหมาะสม หรือผิดประเภทจากจุดประสงค์ที่เราต้องการใช้งาน อาจจะทำให้อาการโคลงเคลงลดลงไปได้ไม่มาก หรือว่าอาจจะมีความแข็งกระด้างไปเลย ทำให้ขับขี่ไม่สบาย เท่าที่ควร

           2. ค่าใช้จ่ายจะมากกว่าแบบที่ 2

ค่าใช้จ่ายของชุดยกชุด แบบที่ 3 นี้ประมาณ หมื่นกลางๆขึ้นไป ขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อของโช็คอัพ และอุปกรณ์ต่างๆที่นำมาใช้งานครับ

 แบบที่ 4.  แบบนี้ถือว่าเป็นแบบที่ค่อนข้างสมบูรณ์มากเกือบที่สุด เนื่องจากมีอุปกรณ์ที่ค่อนข้างจำเป็น เกือบครบเลยก็ว่าได้ ยกเว้นสปริงหน้า และ แหนบหลังซึ่งขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการใช้งานของลูกค้า แต่ละคนว่าต้องการสมรถนะถึงระดับไหน แต่ถ้าต้องการควบคุมงบประมาณไม่ให้สูงเกินไปก็สามารถที่จะใช้แหนบเดิมติดรถมาได้ กรณียังเป็นรถใหม่ แต่ถ้าเป็นรถเก่าใช้งานมานานหลายปี วิ่งมาเกินแสนกิโลเมตรแล้ว การเปลี่ยนแหนบหลังใหม่ก็จะให้สมรถนะช่วงล่างดีขึ้นไปอีก

แบบที่ 4 นี้มีรายละเอียดประกอบไปด้วย 1. โช็คอัพหน้าหลัง 4 ต้น

                                                          2. สเปเซอร์ยกสปริงหน้า 1 คู่

                                                          3. ก้อนรองหลัง 2" พร้อมสาแหรก

                                                          4. ชุดปีกนกปรับองศา 1 คู่

หากเป็นรถแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ควรที่จะมีรายการเพิ่มเติมเป็น ชุดดรอปเพลาหน้า เพื่อลดความชันของเพลาหน้า ไม่ให้ชันมากจนเกินไปเพื่อถนอม ยางหุ้มเพลาขับหน้า และตัวเพลาขับหน้าเองไม่ให้สึกหรอมากเกินไป

ค่าใช้จ่ายในแบบนี้ ราคาอบู่ที่ประมาณ หมื่นกลางๆขึ้นไป จนถึงประมาณ 4 หมื่นบาท ขึ้นอยู่กับรุ่นโช็คอัพ ก้อนรอง สเปเซอร์ และปีกนกที่นำมาใช้

ยกสูงความสูงเพิ่มขึ้น 2"-3" สวยงามลงตัว ใช้งานจริงคล่องตัว สมรถนะดี ไม่เสียรถ